“ผิวสวยขาวใส เปล่งประกายเหมือนดารา” คุณคงเคยผ่านตาไปกับคำกล่าวอ้างทำนองนี้มาแล้วใช่ไหมครับ เพื่อเชิญชวนก้าวสู่ประตูผิวขาวใส ที่ตามติดมาก็คือคำเชิญชวนให้ทดลองหา”กลูต้าไธโอน”มาใช้กินหรือฉีดเพื่อให้ได้ดังฝันนั้น แต่คุณแน่ใจแล้วหรือว่าคูณรู้จักมันจริงๆ ไม่ใช่โดนหลอกให้ซื้อมากินอย่างเปลืองเงินเสียปล่าว วันนี้เราจะมาเล่าความจริงทางการแพทย์ของเจ้าสารตัวนี้ ให้คุณๆได้รับทราบ ในร่างกายคุณมีกูลูต้าไธโอนอยู่แล้ว คุณคงรู้จักหมู่อาหารโปรตีนได้แก่ เนื้อสัตว์ นม อยู่แล้วใช่ไหมครับ ตอนเรียนวิทยาศาสตร์คงจำได้ว่าถ้าเปรียบโปรตีนเป็นรถไฟขบวนยาวๆก็จะมีกรดอะมิโนเป็นโบกี้เล็กๆที่มาเชื่อมต่อกัน ถ้าจำได้แล้ว เราก็อยากจะบอกว่าเจ้าสารที่เรียกว่า กลูต้าไธโอน Glutathione นี้จริงๆแล้วมันคือโปรตีนชนิดหนึ่ง แต่เป็นอณูโปรตีนที่ไม่ยาวมากนักที่เกิดจากอะมิโน Amino Acid 3 ชนิดมาประกอบกันคือ Cysteine Glutamate และ Glycine จะแปลกใจไหมว่าถึงแม้นคุณไม่ซื้อหามากิน เจ้ากลูตาไธโอนสามารถสังเคราะห์โดยเซลล์ในร่างกายของเราเองจากกระบวนปฏิกิริยาชีวเคมีในทุกเซลล์ทั่วๆไป แต่จะพบได้มากที่สุดที่ตับของเรา ถ้าร่างกายขาดกลูตาไธโอน จะเกิดอะไรขึ้น? จุดเริ่มต้นทางการแพทย์ เราพบว่าการขาดสารตัวนี้จะเกิดปัญหาทางสุขภาพในคนไข้หลายๆราย เช่นคนไข้ที่เป็นโรคตับเรื้อรังอยู่แล้วพอมีการลดลงของกลูตาไธโอนนี้เกิดในเซลล์ตับ Hepatocyte จะมีโอกาสทำให้เกิดตับไม่ทำหน้าที่ ถ้าขาดมากๆจะทำให้เกิดตับวายและเสียชีวิตได้ในที่สุด และในคนไข้ที่มีภูมิคุ้มกันไม่ปกติ หรือเกิดเนื้อร้าย มะเร็ง รวมทั้งโรคเอดส์ พอขาดสารกลูตาไธโอนอย่างเรื้อรัง กลับเร่งให้เกิดให้อาการโรคเหล่านี้แย่ลงไปอีก จึงมีการวิจัยศึกษาเจ้าสารตัวนี้อย่างจริงจัง หน้าที่หลักของกลูต้าไธโอน เราได้พบความจริงว่าร่างกายของเราสร้างสารนี้ขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ 1. กำจัดพิษ Detoxification สารนี้เป็นสาร co-factor จะช่วยสร้างเอ็นไซม์ชนิดต่าง ๆ ในร่างกายโดยเฉพาะเอนไซม์ที่ชื่อว่า Glutathion-S-Transferase ใน Phase I Enzymatic Detoxification Pathway ที่เป็นขบวนการกำจัดพิษออกจากร่างกายโดยมันจะไปเปลี่ยนสารพิษชนิดที่ไม่ละลายในน้ำแต่ละลายในน้ำมันได้ดี เช่น พวกโลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง ยาบางชนิด ให้เป็นสารที่ละลายน้ำได้ดีขึ้นและง่ายต่อการกำจัดออกจากร่างกายในที่สุด นอกจากนี้ยังช่วยปกป้องตับของคุณไม่ให้โดนทำลายจากแอลกอฮอล์จากเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ที่คุณดื่มมากเกินไป การได้รับยาพาราเซตามอลมากเกินขนาดในการรักษา Overdose สารพิษที่ผสมในบุหรี่ที่คุณสูดดมเข้าไป 2. ต่อต้านอนุมูลอิสระ Antioxidant สารนี้มีคุณสมบัติเป็นสารต้านปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่นที่เกิดขึ้นระดับเซลล์ Mitochondrial Antioxidant โดยจะทำงานร่วมกับวิตามินซีและอีไปปกป้องเนื้อเยื่อของอวัยวะทุกส่วนไม่ให้เสื่อมสภาพเร็วเกินไป โดยการไปต่อต้านอนุมูลอิสระที่อาจเกิดมากและสะสมอยู่ตามอวัยวะต่างๆ 3. กระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย Immune Enhancer โดยไปกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์หลายชนิดเพื่อให้ร่างกายสามารถต่อต้านสิ่งแปลกปลอมต่างๆ รวมถึงเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ทำให้อาการโรคติดเชื้อต่างๆหายๆได้เร็วยิ่งขึ้น 4. หน้าที่สำคัญอื่นๆ เช่นสารนี้ช่วยสร้างและซ่อมแซม DNA และสังเคราะห์โปรตีนชนิดอื่นๆช่วยให้เม็ดเลือดแดงมีความแข็งแรง ช่วยเร่งการซึมผ่านของสารอาหารเข้าสู่เซลล์ ช่วยปกป้องดีเอ็นเอของเซลล์ไม่ให้ถูกทำลาย ทางการแพทย์เราใช้กลูต้าไธโอนเพื่อการรักษามานานแล้ว ความจริง ในทางเภสัชวิทยาเราได้มีวิจัยเพื่อนำสารนี้มาเป็นใช้เป็นการรักษาโรค ตัวอย่างเช่น · การสารนี้มาใช้กับรักษาโรคระบบเส้นประสาทบกพร่อง ได้แก่ โรคพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์หรือโรคสมองเสื่อม โรคปลายเส้นประสาทอักเสบ · ใช้ในการบำบัดเบื้องต้นสำหรับมะเร็งบางชนิด เช่นมะเร็งกระเพาะ และมะเร็งต่อมลูกหมาก · รักษาพิษจากการได้รับยาพาราเซตามอลเกินขนาด · ใช้เสริมควบคู่ไปกับการรักษาโรคไขมันอุดตันที่ผนังหลอดเลือด Atherosclerosis โรคหลอดเลือดหัวใจ Coronary Artery Disease · โรคเบาหวาน ปอดทำงานผิดปกติ สูญเสียการได้ยินเนื่องมาจากเสียงดังมาเกินไป ผู้ชายที่เป็นหมัน ป้องกันการได้รับสารพิษหรือบำบัดอาการที่ได้รับสารพิษให้คืนสภาพได้เร็วมากกว่าเดิม เป็นต้น ผลเสียของกลูต้าไธโอน 1. ถ้ากินไปนานๆ โดยไม่พักซัก 6 เดือน จะมีผลต่อตับ และ 2. เมื่อไรที่เราหยุดกิน จะสังเกตุได้ว่า เรามักจะดำกว่าเดิม นั่นเป็นเพราะ เม็ดสีถูกกดการทำงานไว้ ขณะที่เรากินพวกกลูตา พอเราหยุดกิน ผิวจะไวต่อแดด ที่เป็น กระ จะเป็นมากกว่าเดิม ภูมิใจในสิ่งที่เป็นอยู่ หรือจะเอา ตายไม่กลัว กลัวไม่ขาว |
วันศุกร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2555
กลูต้าไธโอน....ขาวแฝงรึป่าว..ไปดูกัน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น